..........วันเวลานี่มันรวดเร็วจริงๆนะครับ เดี๋ยววันเดี๋ยวคืน เดี๋ยวก็เดือนเดี๋ยวก็ปี ลูกศิษย์บางคนเรียนเมื่อยังเด็ก หลับตาแพล๊บเดียวโตเป็นหนุ่มเป็นสาวมีแฟนกันเป็นแถว เฮ้อ คนเรามันก็เท่านี้แหละครับจะมีอะไรมากไปกว่านี้ ตัวผมเองนึกไปเมื่อสมัยยังเป็นเด็กหลับตาแพล๊บเดียว เฮ้อ แก่ซะแล้ว มานั่งนึกดูแล้วก็ปลงๆนะครับ อะไรๆมันก็ไม่จิรังยั่งยืน จะมีก็แต่นามธรรมนั่นแหละครับ ที่ยังวนเวียนอยู่ในความคิดให้หลงใหลใฝ่ฝัน เวียนเกิดเวียนตายมาเจอะมาเจอกับความรักความพลัดพรากอยู่ร่ำไป
..........ก็พูดไปตามประสาคนชอบคุยน่ะครับ ทีนี้เรามาต่อกันเรื่องของมวยไทยกันต่อนะครับ คราวที่แล้วเราก็ได้ฝึกการออกอวัยวุธกันพอหอมปากหอมคอ และยังสามารถนำอวัยวุธที่ฝึกได้ มาคละเคล้ากันได้อย่างกลมกลืน ทีนี้เราจะกล่าวถึงเรื่อง พันลำ อันเป็นรูปแบบที่นักมวยหรือผู้ฝึกมวยไทยทุกคนต้องฝึกอย่างหลีกเลี่ยงมิได้
พันลำ คือการออกกวัยวุธต่อเนื่องจากอวัยวุธที่กระทบเป้าหมาย และไม่จำเป็นต้องซ้ำที่ หรือซ้ำอวัยวุธ ที่สำคัญควรฝึกให้อยู่ในการควบคุมของผู้ฝึก ไม่ใช่ว่านึกจะออกอวัยวุธแบบพันลำอย่างไรก็ได้ มันต้องให้อยู่ในความควบคุม คือ หมัด เท้า เข่า ศอก ต้องอยู่ในความควบคุมของท่านนั่นเอง ยกตัวอย่างท่านทิ่มไปเพื่อระยะการใช้หมัดกระแทก และท่านกระแทกหมัดไปแล้วคู่ ต่อสู้ของท่านมีอาการอย่างไร เช่น กระเด็นไปไกลกว่าระยะหมัดท่านก็ต้องติดตามด้วยแข้ง และหากว่าท่านฝึกการเหวี่ยงแข้งงัดหลังเท้า ท่านอาจควบคุมให้คู่ต่อสู้ของท่านกระเด็นเข้ามาอยู่ในระยะเข่าหรือศอก เวียนสั้นไปยาวและเวียนยาวกลับมาสั้น ทั้งนี้ต้องอยู่ในความควบคุม ไม่ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ จนเกิดธรรมชาติใหม่เฉพาะตัวท่าน เปรียบเหมือนท่านเดินหมากรุก หากท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ ท่านสามารถบังคับให้คู่ต่อสู้ของท่านเดินไปตรงนั้น เดินไปตรงนี้ได้ดังใจปรารถนา โดยคู่ต่อสู้ของท่านไม่มีทางรู้ว่าเขากำลังเดินไปสู่จุดที่ท่านได้กำหนดความ พ่ายแพ้ไว้ให้แก่เขาแล้ว
การฝึกการพันลำ การพันลำนั้นท่านควรฝึกกับกระสอบทรายที่ไม่หนักจนเกินไปโดยให้มีการกระ เด็นไปตามแรงของอวัยวุธบ้าง เช่น เวลาท่านกระแทกหมัดก็ให้มีความสั่นไหวกระเด็นบ้างเล็กน้อย หรือเวลาท่านเหวี่ยงแข้งกระสอบก็ควรเคลื่อนไหวไปตามน้ำหนักของแรงเหวี่ยง เพื่อให้เกิดระยะ และต้องใช้การพิจารณาในการต่อเติมอวัยวุธให้ถูกต้องแบบจะแจ้งถนัดถนี่ และให้ท่านออกอวัยวุธที่แตกต่างกันในแต่ละครั้ง เช่น ท่านเริ่มด้วย การทิ่ม กระแทก เหวี่ยงแข้งหลัง ยัดเข่า เหวี่ยงศอก ครั้ง ต่อไปท่านก็เปลี่ยนโดยอาจเป็นเริ่มด้วย ก้าวเหวี่ยงสั้น ยัดเข่าหลัง เหวี่ยงแข้งหลัง กระแทกหมัดหลัง เหวี่ยงสั้น เหวี่ยงศอก จูบศอก ทัดมาลา ซึ่งท่านต้องเป็นผู้กำหนดระยะหรือสัดส่วนต่างๆเอง จากการที่ท่านฝึกการออกอวัยวุธในเบื้องต้นมาแล้ว
..........ข้อสำคัญเวลาท่านฝึก ท่านต้องมีกฎเกณฑ์ตั้งแต่การจรดมวย การออกอวัยวุธ ให้ถูกต้องตามแบบฉบับของไชยา ยกตัวอย่างเวลาท่านทิ่ม มืออีกข้างของท่านต้องปิดที่บริเวณรูหู คือปิดรูหูและศอกไม่กางนั่นเอง หรือเวลาท่านเหวี่ยงแข้ง ท่านควรจรดมวยและ
พลิกเหลี่ยมตามแรงของการเหวี่ยง แข้ง เช่น ท่านเหวี่ยงแข้งขวา ท่านก็ควรพลิกเหลี่ยมขวา มือขวาสลับตามขาข้างที่เหวี่ยง มือซ้ายลดลงมาอยู่บริเวณครึ่งของแขนหน้าและ ท่านควรนอนลำตัวของท่านให้ประมาณขนานกับพื้น
..........มวยไทยไชยานั้น ในขณะที่ออกอวัยวุธก็จะปิดจุดอ่อนไปในขณะเดียวกัน เวลาเหวี่ยงแข้งก็จะสะบัดหัวไปอีกทาง ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสชกหน้าท่านได้ เวลาชก ก็ไม่ยืดแขนตึงและยังปิดรูหู มือที่ไม่ยืดตึงจะปิดหน้าไปในตัว ศอกที่แนบประมาณขนานลำตัวจะคอยดักป้องกันอวัยวุธแข้ง ที่อาจเหวี่ยงมากระทบ อย่างคร่าวๆ อีกทั้งเวลายัดเข่า ก็จะยกท่าครูขึ้นคอยป้องกัน รวมทั้งเวลาท่านศอก ท่านก็ยังมีแขนหรือศอกอีกข้างคอยคุ้มกันไปในขณะเดียวกัน
มวยไชยานั้นเป็นศาสตร์ที่ไม่มีวันจบสิ้น และเป็นมวยไทยที่ฝึกยากมาก ต้องใช้ความพยายาม จากวันเป็นเดือนจากเดือนเป็นปี ดังได้กล่าวมาแล้ว คราวหน้าผมจะอธิบายถึงวิธีการใช้ลูกไม้มวยกันนะครับ
พลาดไม่ได้เช่นเคย