
เวลาผมไปถึงที่บ้านคุณลุง ผมจะเปลี่ยนชุดเพื่อทำการฝึกมวย จากนั้นผมก็จะย่างสามขุม พอย่างสามขุมเสร็จผมก็จะเดินไปยังห้องที่เหมือนกรงนกใหญ่ๆแต่ท่านจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์การเรียนมวยเช่น แฮนด์แบค กระสอบทราย นวมเอยไรเอย และก็อาจมีอะไรอย่างอื่นที่ผมไม่ได้ไปค้นดูเพราะมันเป็นมารยาทที่ไม่ควรอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นผมจึงเอาแต่แฮนด์แบคเพื่อจะได้ชกกระสอบทรายที่แขวนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว
ผมเริ่มด้วยการชกหมัดทิ่ม กระแทก โดยท่านจะคอยบอกหากว่าผมทำผิด ยกตัวอย่างผมชกหมัดหน้าไปแล้วผมไม่ได้เอามืออีกข้างปิดที่หูหรือผมชกหมัดหลังไปแล้วไม่เอามืออีกข้างปิดหู ท่านจะจ้ำจี้จ้ำไชผมมากโดยบอกให้เอามือปิดที่หู ลูกศิษย์คนอื่นๆท่านก็ไม่ได้สอนแบบปล่อยปละละเลย ท่านให้ความสำคัญกับการสอนมากครับ ท่านบอกพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญมาก
จำได้ว่าครั้งหนึ่งท่านสอนวิธีการเหวี่ยงแข้ง ท่านบอกให้เอามือยกขึ้นมาไหว้เอาไว้ให้นิ้วโป้งทั้งสองจรดติดอยู่ที่คางและไม่ให้เอามือออก (ทำให้ดูด้วย) ศอกก็ไม่ให้กางจนเกร็งเกินไปให้พอดีๆ ฝ่าเท้าทั้งสองข้างให้ขนานกันและให้ย่อขาด้วย แล้วท่านก็เหวี่ยงแข้งขวา เหวี่ยงแข้งซ้ายสลับกันช้าๆ เวลาท่านเหวี่ยงแข้งลำตัวท่านจะเอนนอนขนานไปกับพื้น แต่ศีรษะท่านจะเกือบตั้งตรงและท่านสะบัดศีรษะของท่านตามลำตัวที่เหวี่ยงไป คุณลุงท่านบอกพวกเราว่า “นี่เรียกสะบัดหัวเหวี่ยงแข้ง”
ตอนนั้นคุณลุงท่านอายุ 70 ปีแล้ว แต่ท่านทำให้ดูหมดจดงดงามมาก ท่าทางทะมัดทะแมงแข็งแรงมาก ท่านบอกว่า “ก่อนที่จะเหวี่ยงแข้งจรดมวยแบบไชยา จะต้องฝึกแบบนี้ก่อนเป็นเบื้องแรก เพราะป้องกันไม่ให้มือไม้ตก ให้ระลึกอยู่เสมอว่านิ้วโป้งต้องจรดติดคาง” ต่อไปถ้ามือไม่ตกก็ค่อยมาเหวี่ยงแข้งจรดมวยไปด้วย วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับยาวไปก็จะขี้เกียจอ่านกันครับ
ครูเล็กเล่าเรื่องมวยตอนอื่นๆ