
เริ่มฝึกมวยไทย ตั้งแต่อายุประมาณ 12 ปี โดยเรียนจากพี่ชายคนโต คือ วิชชนันท์ สดประเสริฐ (ลูก ศิษย์ของท่านปรมาจารย์กิมเส็ง ทวีสิทธิ์)
..........โดยในขณะนั้นศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก กรุงเทพฯ จนกระทั่งอายุได้ 16 ปี อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้มีโอกาสอ่านนิตยสาร "ฟ้าเมืองไทย" พบข้อความที่เขียนโดยท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย ในหัวข้อ "ปริทัศน์มวยไทย" อ่านแล้วทำให้เข้าใจมวยไทยได้อย่างถ่องแท้ และบังเกิดความศรัทธาในตัวท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัยเป็นอย่างสูง จึงได้ติดตามค้นหาประวัติของ ท่านจึงได้ทราบว่า ท่านเป็นปรมาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิและเป็นผู้เชี่ยวชาญวิชามวยไทยอย่างเอกอุ ยากหาผู้ใดเสมอเหมือน ท่านได้ร่ำเรียนถึง 13 บรมครู โดยมีท่านปรมาจารย์ กิมเส็ง ทวีสิทธิ์ เป็นครูคนที่ 13 อีกด้วย
..........ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นเหตุจูงใจอย่างแรงกล้า ที่ต้องตามหาท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย
และเมื่อได้พบท่านแล้ว จึงได้สอบถามทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นเรื่องคลุมเครือเกี่ยวกับมวยไทยเช่น แม่ไม้ ลูกไม้ สามขุม ไม้ตาย ฯลฯท่านก็ได้อธิบายให้ความกระจ่างมิได้มีความติดขัดหรือสองแง่สามมุมท่าน อธิบายแล้วจบ คือไม่สงสัยอีกต่อไปนั่นเอง
..........นับแต่วินาทีนั้นจึงได้ฝาก ตัวเป็นลูกศิษย์ ตั้งใจฝึกฝนมวยไทยตำรับไชยากับท่าน จนกระทั่งอายุ 18 ปีหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สอบเข้าที่วิทยาลัยช่างศิลป์ได้ จึงต้องห่างเหินจากการฝึกมวยไทยกับท่าน จนกระ ทั่งอยู่ป.ว.ส.ได้ครึ่งปี ก็มิได้เรียนต่อ ต้องออกมาทำงาน เมื่อเริ่มใช้ชีวิตในการทำงาน อายุประมาณ 21 ปี ก็ทราบข่าวการเสียชีวิตของท่านปรมาจารย์เขตร ศรียาภัย
..........ครั้นถึงปีพ.ศ.2524 ได้ไปเขียนยันต์ลงบนตัวของนักมวยอีสาน ซึ่งเดินทางมาแสดงที่สยามสมาคม ก็ได้มี โอกาสพบท่านคุณครูทองหล่อ ยาและ ลูกศิษย์รักของท่านปรมาจารย์เขตร ซึ่งขณะนั้นท่านได้เดินทางไปอธิบายเนื้อหาสาระเกี่ยวกับมวยไทย ให้แก่ประชาชนที่สนใจ
...........นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา จึงได้ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของคุณครูทองหล่อ ยาและ และได้ร่ำเรียนมวยไชยาต่อจากท่านมาโดยตลอด จนกระทั่งท่านเสียชิวิต เมื่อปี พ.ศ.2539 ด้วยโรคมะเร็ง